วันนี้เราจะมาคุยกันถึงกระแสความแรงเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินอีกวงหนึ่งกันบ้าง ซึ่งเชื่อได้เลยว่าทุกคนต้องคุ้นหูกับคำ ๆ นี้มาแล้วทั้งนั้น เพราะมันเป็นที่โด่งดังจนเป็นประเด็นสนทนาสุดฮอตของนักลงทุนในทุกวันนี้เป็นที่เรียบร้อย กับ Blockchain บทบาทใหม่ของธุรกรรมทางการเงิน
Video Script :
บล็อกเชน [1.1f] เป็นเทคโนโลยีซอฟแวร์แบบเพียร์ทูเพียร์ [1.7] ที่ปกป้องข้อมูลโดยที่ไม่อนุญาตให้ไครปลอมหรือเปลี่ยนได้ [2.1] มันถูกคิดค้นขึ้นเพื่อใช้สร้างสกุลเงินทางเลือกคือ บิทคอยน์ [3.1] [3.2f] ซึ่งสามารถใช้ได้กับสกุลเงินดิจิตอลอื่นๆ [3.5] บริการลายเซ็นออนไลน์ [4]ระบบลงคะแนน [5.1] และแอปพลิเคชันอื่นๆอีกมาก[5.2f] ในวิดีโอนี้เราจะอธิบายว่ามันทำงานอย่างไรและอะไรที่ทำให้มันพิเศษ
เราทุกคนล้วนใช้เงินที่ทำจากกระดาษ [1] เมื่อคุณได้ธนบัตร 10 ดอลล่าร์ คุณก็มั่นใจได้ว่ามันไม่ใช่ของปลอม [2] แต่หากมีคนส่งอีเมลมาบอกคุณว่า[3.1] "นี่เงินสิบดอลล่าร์" [3.2f] คุณก็คงจะไม่เชื่ออย่างแน่นอน [3.3] ทั้งๆที่เวลาเรา”โอนเงิน” [4.1] โดยใช้ตู้เอทีเอ็ม [4.2f] หรือจ่ายเงินผ่านบัตร [4.3] เราก็ใช้วิธีการแบบเดียวกันนี้ เราส่งเงินผ่านทางข้อความดิจิตอล
เพื่อที่จะทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครโกง [1.2f] หรือส่งเงินที่พวกเขาไม่มีอยู่จริงออกไป [1.3f] “ข้อความ” พวกนี้ต้องเดินทางผ่าน [2.1] ธนาคารที่เชื่อถือได้สองสามแห่ง [2.2] ซึ่งจะลงบันทึกทุกอย่างเอาไว้ [2.3] พวกเขาจึงทราบ [3.1f] ว่าใครมีเงินมากแค่ไหนและ [3.2] หักออกไปได้อย่างถูกต้องจากทุกๆธุรกรรมที่เกิดขึ้น
แต่ราคาของบริการก็จัดว่าสูงมาก [1.2] เนื่องจากมีธุรกรรมเกิดขึ้นนับล้านทั่วโลก [1.3] ในทุกๆนาที [pause] นักเศรษฐศาสตร์ [2.1f] ประมาณไว้ว่าธนาคารเรียกเก็บเงินจากเรา [2.2] มากกว่า 1.7 ล้านล้านดอลล่าร์ [2.3] สำหรับการจัดการธุรกรรมเหล่านี้ในปี2014 [2.4]. นั่นถือเป็นราวๆ 2% [3.1] ของทั้งระบบเศรษฐกิจโลก! [3.2f] ด้วยบล็อกเชน เราสามารถประหยัดต้นทุนส่วนนี้ได้ [4.2] เพราะมันทำให้การส่งเงิน [5.1] เหมือนกับแค่การส่งอีเมล
แทนที่จะส่งข้อมูลธุรกรรมจำนวนมากผ่านเซิร์ฟเวอร์เพียงไม่กี่ตัว [1.3], [2.1f] บล็อกเชนใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหลายพันเครื่องบนอินเตอร์เน็ต [2.2] ทุกๆรายการจะถูกคัดลอกและตรวจสอบเทียบกัน [3.2] [3.3f] ระหว่างคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง [3.5] ในระบบสมุดบัญชีที่เรียกว่า เลดเจอร์ [3.7] ซึ่งทำให้มีความปลอดภัย
บล็อกเชนไม่เพียงทำให้เรา [1.1] สร้างสกุลเงินออนไลน์ที่ปลอดภัยได้เท่านั้น [1.2] มันยังช่วยเราปกป้องข้อมูลดิจิตอลทุกชนิด [2] ซึ่งอาจจะเป็นบัตรประชาชนออนไลน์ [3f] บัตรลงคะแนนเสียง [4f] สัญญา [5f] และ “เครื่องมือทางกฏหมาย” อื่นๆอีกมาก [6.3] ขับเคลื่อนระบบจัดการที่เคยซ้ำซ้อนไปสู่ [7.1] ความก้าวหน้าของศตวรรษที่ 21